SABUY ติดเทอร์โบ กางกลยุทธ์ปี 66-67 ตั้งเป้าต่อไป รายได้ ‘20,000 ล้านบาท’ ต้องมา!

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทาง SABUY เพิ่งโชว์ผลงานปี 65 ให้พวกเราได้เห็น อวดกำไรเน้น ๆ ที่ 1,484 ล้านบาท ติดจรวจขึ้นมากว่า 594% เตรียมแจกจ่ายปันผลอัตรา 4 หุ้นต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่าย 0.25 บาทต่อหุ้น (รวมอัตราจ่ายที่ 0.2887 บาทต่อหุ้น)

ล่าสุดในวันนี้ (1 พ.ค. 66) ออกมาแถลงกลยุทธ์ธุรกิจปี 2566 แตะไปที่ 2567 ตั้งเป้ารายได้ 20,000 ลบ. และงบลงทุนเติบโต SABUY ecosystem อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สะท้อนความเป็น Super Growth Stock สุดเข้มข้นไม่เกรงใจใคร กว่าอีก 10,000 ลบ. 

แต่ก่อนอื่น จะกลับมาทวนมาความจำกันซักนิด ว่าโครงสร้างของทางบริษัทฯ มีหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วตอนนี้

จากรูปด้านบน เราจะเห็นได้ว่าสามารถแบ่งออกเป็น 6 ยุทธศาสตร์ (กลุ่มเครือธุรกิจ) ได้แก่:

1. Connext ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม
2. Enterprise & Life ธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ด้วยความเข้าใจผู้บริโภค
3. Payments and Wallet ธุรกิจบริการด้านการชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์
4. Financial Inclusion ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย
5. InnoTainment ธุรกิจนวัตกรรมทางสื่อ ดิจิทัลมีเดีย และเครือข่าย
6. Venture ธุรกิจการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน

และภายใต้ 6 กลุ่มเครือธุรกิจ ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 6 ประเภทธุรกิจ ที่ทางบริษัทฯ มองว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ ช่วยกวาดรายได้สองหมื่นล้านบาท หรือโตกว่า 400% จากรายได้ปี 2565

จากในรูปจะเห็นได้ว่าทางบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ประเภท ‘Innotainment & Infrastructure’ สูงที่สุด หรือที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะโฟกัสที่ digital marketing มากขึ้น ซึ่ง คุณวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน ของ SABUY กล่าวว่า

เรามีทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ต้องรวมพลังเข้ามาด้วยกันผ่าน digital marketing ในแบบของ SABUY ด้วยการมีสื่อเพื่อให้องค์ประกอบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นในปี 2566

อีกธุรกิจที่ค่อนข้างฮ็อตในช่วงนี้ทีไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ ‘SABUY speed’ ธุรกิจ Drop-off Store ดาวรุ่งของ SABUY ecosystem มีสาขากว่า 10,000 ทั่วไทย ซึ่งได้แย้ม ๆ ให้ได้ยินกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพ SABUY speed มีความพร้อมมากในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ วางแผนว่าอาจจะเห็นภาพชัดขึ้นในปี 2568

ทางคุณวิรัชพูดเปรย ๆ ไว้ว่า “ไม่ได้รีบอะไร” พร้อมบอกว่า มี Strategic Partner (พันธมิตรเชิงกลยุทธ์) มาพูดคุยสนใจบ้างแล้ว และมีการเสริมเพิ่มเติมว่า ยังมี บริษัทนครหลวง จำกัด (NKON) และ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BZB) ที่กำลังเล็งเข้าตลาดหุ้นไว้เช่นกัน

ในส่วนของการลงทุนหลัก ๆ ในปี 2566 ท็อปสามที่ทางบริษัทฯ คาดว่าจะลงมากที่สุด เป็นในส่วนของ Financial services, Smart solutions และระบบ Payment อย่าง ‘GHL’ (อยู่ภายใต้กลุ่มเครือธุรกิจลำดับ 3)

เพื่อฉายภาพให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าแผนกลยุทธ์ธุรกิจปี 2566 – 2567 หน้าต่อหล่อเหลาขนาดไหน คงจะต้องมาดูรูปด้านล่างนี้กันซักนิด

หัวใจหลักที่เป็นธีมของปีนี้ จะอยู่ที่ Overseas Aspiration หรือการเล็งขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ด้วยการให้ธุรกิจสามารถ Scale กลายเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค (Regional player) เติบโตรายได้ให้แข็งแกร่งและลดต้นทุนในการผลิตบางส่วน 

พร้อมกันนี้ ยังวาดภาพให้เห็นว่าปีหน้าจะชูโรงด้าน Data Monetization หรือก็คือการหารายได้จากข้อมูลเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเราทุกคนคงรู้กันดีว่า บริษัทฯเทคชั้นนำของโลกต่างแข็งแกร่งด้วยการมีศักยภาพในสนามแข่งขันจากการใช้ Data Monetization อย่างชาญฉลาด ซึ่งทาง SABUY ทราบเรื่องนี้ดี และพร้อมที่จะเดินทางไปสู่จุดนั้นเช่นกัน 

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้จะแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งในการเติบโตให้เห็น ก็ยังไม่ลืมว่าจะต้องวางหมากในการเดินอย่างรอบคอบแค่ไหน ซึ่งทางคุณวิรัชยังคงเน้นย้ำ ไม่ว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างไร จะไม่ลืมว่าต้องเติบโตในรูปแบบ Sustainability หรือโตอย่างมั่นคงควบคู่กันไป เช่น:

ก่อนจะสรุปกัน อาจมีบางคนได้ข่าวกันบ้างแล้วว่าทางบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น SINGER ของ Jaymart ซึ่งในเซสชั่นวันนี้ ทางคุณวิรัชก็ได้ตอบชัดแล้วว่ามีการซื้อจริง แต่ต้องขอเคลียร์ข่าวนิดนึงว่า เป็นเพียงแค่การซื้อเข้าพอร์ตลงทุนของบริษัทเฉย ๆ อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะร่วมมือกับทาง Jaymart เพื่อเป็น Strategic investor หากมีโอกาส (ไม่ปั่นข่าวกันไปเรื่อยน้า!) และในส่วนของพอร์ตลงทุนตัวอื่น ๆ ที่รู้กันมาว่ามีอีก 5 บริษัท ทางคุณวิรัชไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ แต่ได้พูดทีเล่นที่จริงไว้ว่า ให้ดูตามข่าวเอา บริษัทไหน “หล่อ ๆ สวย ๆ” ก็อาจเป็นอันนั้นแหละ!

สุดท้ายนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าในทำไมหุ้น SABUY กลายเป็นลูกรักของหลายคนในพอร์ต และถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ดังนั้นคงจะต้องรอดูกันในปีนี้ ไปจนถึงปี 2567 ว่าทาง SABUY จะเพิ่มความแข็งแกร่งของ SABUY ecosystem ให้บริษัทฯ กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในระดับ ASEAN ที่ต้องจับตามองได้อย่างไร!